ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อก เพื่อให้โบท็อกอยู่ได้นานกว่าปกติ
การฉีดโบท็อก กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน เพราะเห็นผลชัดเจน ราคาไม่แพง และหน้าเรียวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในบทความนี้ จะมาบอกวิธีปฎิบัติตัวก่อนฉีดโบท็อกและหลังฉีดโบท็อก ที่ทำให้โบท็อกอยู่ได้นานกว่าปกติ รับรองได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
โบท็อก จะแยกเป็น 2 ส่วน
ส่วนที่ 1 ที่ถูกดูดซึมเข้าไปเก็บเข้าไว้ในเซลล์ประสาทเท่านั้นที่จะออกฤทธิ์และถ้าส่วนนี้มีความเข้มข้นสูงก็จะทำให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นครับ
ส่วนที่ 2 ที่ไม่ถูกดูดซึมจะปลิวไปตามกระแสเลือดภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชม.หลังฉีด และถูกขับออกไปในที่สุด โดยไม่มีผลต่อเซลล์อื่นๆ ของร่างกาย(เสียไปฟรีๆ)
วิธีปฎิบัติตัวก่อนฉีดโบท็อก
- เลือกใช้โบท็อกแท้เท่านั้น
โบท็อกแท้จะมีการกระจายตัวต่ำ นั่นคือฉีดจุดไหนจะอยู่จุดนั้น จะทำให้การปลิวหายไปเกิดขึ้นน้อยลง ดังนั้นก่อนฉีดทุกครั้งต้องตรวจสอบว่าเป็น “โบท็อกของแท้” ด้วยนะ
- การผสมน้ำเกลือ
(โบท็อกแท้ทุกยี่ห้อ จะมาในรูปแบบสูญญากาศแห้งๆ ไม่มีน้ำ ต้องใส่น้ำเกลือลงไปละลายเพื่อดูดออกมาฉีด) ถ้าเจือจางน้ำเกลือมากเกินไป จะทำให้โบท็อกปลิวไปง่ายขึ้น ปริมาณความเข้มขันที่เหมาะสมคือ น้ำเกลือ 2.6 cc ต่อ โบท็อก 100 ยูนิต
- เทคนิคการฉีด
ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีความเชี่ยวชาญในการประเมินกล้ามเนื้อที่จะฉีด ว่าจุดไหนความลึกเท่าไรคือจุดที่เซลล์เส้นประสาทมาเกาะกล้ามเนื้อ ถ้าฉีดไม่ตรงจุด ก็จะได้ผลเหมือนกัน แต่เห็นผลช้าและอยู่ได้สั้นลง
วิธีปฎิบัติตัวหลังฉีดโบท็อก
1. หลังฉีดโบท็อก ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
หลังจากฉีดเสร็จทั้งหมด ควรบริหารกล้ามเนื้อทั้งหมดที่ฉีดเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด
- หลังฉีดโบท็อกควรงดนอนราบ 3 ชม.
รวมทั้งงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่หน้าเยอะขึ้น โบท็อกจะปลิวไปเยอะขึ้น
ข้อห้ามการฉีดโบท็อก
– คนที่มีปัญหาเรื่อง โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง อาจจะอันตรายถึงชีวิต
– คนที่มีปัญหาเรื่อง กล้ามเนื้อในการกลืน
– คนที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงต่างๆ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่ยังไม่แน่ใจว่าควร ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ Fareeda Clinic ยินดีให้คำตอบฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ขอขอบคุณข้อมูล vsquareclinic